สรุปว่ากรณีของเบบี๋เป็นบทเรียนสำคัญที่ว่า การ เปิดเผยหรือจัดการกับอดีต อย่างโปร่งใสก่อนการประกวดมีความสำคัญมากกว่าการพยายามซ่อนเร้น เพราะในยุคโซเชียล อดีตย่อมถูกขุดค้นพบได้เสมอ หากผู้เข้าประกวดสามารถชี้แจงที่มาที่ไปของอดีตได้อย่างชัดเจน อาจทำให้กองประกวดสามารถประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจได้อย่างรอบด้านตั้งแต่ต้น ซึ่งอาจช่วยลดโอกาสในการเกิดดราม่ารุนแรงหลังการรับตำแหน่งได้
หมวดหมู่: ข่าวดัง
-
ลองใช้ ‘Vibes’ เครื่องผลิตคอนเทนต์ไร้ขีดจำกัดของ Meta: นี่คือศิลปะ หรือแค่ ‘กากอาหาร’ แห่งโลก AI?
Vibes คือฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ Meta AI ที่เปิดตัวบนแอปฯ และเว็บไซต์ ซึ่งเป็นการนำเสนอวิดีโอที่สร้างโดย AI ที่ส่งมาจากครีเอเตอร์ โดยเป็นการ เลื่อนดูแบบไม่มีที่สิ้นสุด (endless scroll) สิ่งนี้เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนที่สุดของสิ่งที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ต้องการสร้างมาตั้งแต่สมัยออกแบบ Facebook นั่นคือเครือข่ายสังคมที่เน้นการเลื่อนดูอย่างไร้จุดหมาย
การผสานรวมของ MTV และความไร้เรื่องราว
สิ่งแรกที่ผู้รีวิวสังเกตเห็นจากการใช้เวลาเกือบทั้งวันกับการดู Vibes คือ วิดีโอสั้น ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่ดูเหมือนคลิป 10 วินาทีจาก มิวสิกวิดีโอ บางอันดูเหมือนมิวสิกวิดีโอยุค 80 ที่เชย ๆ หรือบางอันก็ดูแปลกประหลาดเหมือนงานของผู้กำกับยุค 90
- วิดีโอสัตว์เลี้ยง AI: คลิปวิดีโอสัตว์เลี้ยงที่สร้างด้วย AI ซึ่งมีจำนวนมาก มักจะดูเหมือนมาจากจักรวาลคู่ขนานที่ช่อง MTV กับ Hallmark Channel รวมตัวกัน
- ปัญหาหลัก: แม้มิวสิกวิดีโอที่ดีจะสามารถเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจได้ แต่วิดีโอสั้น ๆ ใน Vibes นั้นเป็นเพียง ความสวยงามที่ดึงดูดสายตา (Eye Candy) ที่ยอดเยี่ยม แต่ ไม่มีเรื่องราวที่เชื่อมโยง เลยแม้แต่น้อย หลังจากเลื่อนดูเป็นเวลานาน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ใช้โซเชียลมีเดียถึงเรียกบริการใหม่ของ Meta นี้ว่า “เครื่องผลิตกากอาหารที่ไม่สิ้นสุด” (infinite slop machine)
อนาคตของวิดีโอ AI?
ปัจจุบัน วิดีโอที่สร้างโดย AI ได้แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว (YouTube ก็เริ่มอนุญาตให้เพิ่มวิดีโอ AI ลงใน Shorts ได้แล้ว) คำถามคือ ถ้า Vibes คืออนาคตของศิลปะวิดีโอ AI จริง ๆ ศิลปินก็อาจจะสบายใจได้
- ขาดบริบท: ศิลปินเข้าใจความสำคัญของการจัดวางและบริบท (Display and Context) ในงานศิลปะ แต่วิดีโอใน Vibes กลับถูกนำมา ยัดรวมกัน อย่างไม่มีพื้นที่ว่างให้หยุดพัก หรือประมวลผล
- ไม่ติดอยู่ในหัว: วิดีโอสั้น ๆ ที่ไม่มีที่สิ้นสุดเหล่านี้ถูกฉายผ่านไปอย่างรวดเร็ว แทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในความทรงจำเลย มีเพียงข้อยกเว้นบางกรณี เช่น วิดีโอแปลก ๆ ที่ดูเหมือน Tom Hanks และ Donald Trump กำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างในทุ่งข้าวโพด ซึ่งสร้างความสยองขวัญแทน
ปัญหาคือ “แคลอรีที่ว่างเปล่า”
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยี AI Video จะก้าวหน้าไปมากจนปัญหาเรื่อง “มือที่มีนิ้วมากเกินไป” หรือแขนขาที่ผิดปกติที่เคยเห็นในงาน AI ยุคแรกเริ่มลดน้อยลงมากแล้ว แต่ก็ยังมีความผิดเพี้ยนเล็กน้อยปรากฏอยู่ (เช่น นักท่องเที่ยวริมทะเลที่ไม่ได้มองไดโนเสาร์ที่วิ่งอยู่ข้างหน้า)
- ไม่ใช่ Uncanny Valley: ปัญหาหลักของ Vibes ไม่ใช่การที่มันดูแปลกประหลาดจนน่าขนลุก (Uncanny Valley) แต่เป็นเรื่องของ “แคลอรีที่ว่างเปล่า” หรือ “ความน่าสนใจที่ไร้แก่นสาร”
- สมองต้องการเรื่องเล่า: เด็กเล็กอาจเพลิดเพลินไปกับความแปลกใหม่ของภาพได้นานหลายชั่วโมง แต่สมองที่เติบโตขึ้นจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมีเรื่องราว (Storytelling) เข้ามาเกี่ยวข้อง นี่คือเหตุผลที่ฟีด Facebook ในอดีตน่าสนใจ เพราะเราได้แชร์และสร้างเรื่องราวร่วมกัน
ในแง่หนึ่ง Zuckerberg เข้าใกล้ความฝันในยุค MTV ที่ต้องการสร้างการเลื่อนดูที่ไร้จุดหมายแล้ว แต่ในแง่ของการเล่าเรื่องราวที่ทำให้ผู้คนอยากกลับมาดูซ้ำเพื่อติดตามว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไปนั้น “เครื่องผลิตกากอาหารที่ไม่สิ้นสุด” ของ Meta ยังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายนั้นอยู่มาก
คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับการเกิดขึ้นของวิดีโอ AI ที่มีปริมาณมหาศาลเช่นนี้บ้างครับ? คิดว่ามันจะส่งผลต่อการเสพสื่อของเราในอนาคตหรือไม่?
ข้อมูลจาก sea.mashable.com